Headlines

Dragon Quest: กำเนิดตำนาน RPG ที่โลกต้องจารึก (ตอนที่ 1)

ตอนที่ 1: ปฐมบทแห่งตำนานและแรงบันดาลใจ

ในโลกแห่งวิดีโอเกมอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเกมจำนวนไม่น้อยที่ถือกำเนิดขึ้นและดับไปตามกาลเวลา แต่มีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นที่สามารถฝังรากลึกลงในความทรงจำของผู้คน กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันรุ่นสู่รุ่น หนึ่งในนั้นคือ “Dragon Quest”(ดราก้อนเควสต์) ซีรีส์เกม RPG (Role-playing Game, เกมที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นในโลกสมมุติ) ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกม หากแต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเกมอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

Dragon Quest ไม่ใช่แค่เกมที่ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นนักรบผู้กล้าออกผจญภัยไปในโลกแฟนตาซี แต่เป็นมากกว่านั้น มันคือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ความผูกพัน มิตรภาพ และการต่อสู้กับความชั่วร้ายที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังความงดงามของโลกใบนั้น ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผสมผสานความเรียบง่ายเข้ากับความลึกซึ้ง Dragon Quest ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกมแนว RPG และส่งอิทธิพลต่อเกมมากมายที่ตามมา

บทความนี้จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่จุดเริ่มต้นของการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อสำรวจเบื้องหลังการสร้าง Dragon Quest ตั้งแต่แรงบันดาลใจแรกเริ่ม ไปจนถึงการกำเนิดของเกมภาคแรก และวิวัฒนาการที่นำพาซีรีส์มาสู่จุดที่ยืนอยู่ทุกวันนี้ เราจะเจาะลึกถึงผู้สร้าง ผู้ที่มีส่วนร่วม และองค์ประกอบที่หล่อหลอมให้ Dragon Quest กลายเป็นเกมที่อยู่ในใจของผู้คนมากมาย

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Dragon Quest แตกต่างและเป็นที่รักของผู้เล่นมาตลอดหลายทศวรรษ? อะไรคือแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการสร้างเกมที่เปลี่ยนแปลงวงการไปตลอดกาล? ร่วมเดินทางไปไขปริศนาเหล่านี้ไปด้วยกันในบทความนี้

เกม Dragon Quest ภาคแรก
วางจำหน่าย 27 พ.ค. 1986

ยุคก่อน Dragon Quest: แรงบันดาลใจและการบ่มเพาะ

ก่อนที่ Dragon Quest จะถือกำเนิดขึ้นในฐานะเกม RPG สุดคลาสสิกนั้น วงการเกมและวัฒนธรรมป็อปในยุคนั้นได้วางรากฐานและหล่อหลอมแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างไว้มากมาย เราจะมาสำรวจโลกที่ ยูจิ โฮริอิ (Yuji Horii), อากิระ โทริยามะ (Akira Toriyama) และ โคอิจิ ซูงิยามะ (Koichi Sugiyama) ได้เติบโตขึ้นมา เพื่อเข้าใจถึงที่มาของ Dragon Quest ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

แรงบันดาลใจจากโลกตะวันตก: การผจญภัยบนโต๊ะสู่โลกดิจิทัล

ยุค 1970 และ 1980 เป็นยุคทองของการเติบโตของเกม Tabletop RPG หรือเกมกระดานสวมบทบาท ที่เกม Dungeons & Dragons (D&D) คือหัวหอกสำคัญ เกม D&D ไม่ได้เป็นแค่เกมที่ใช้ลูกเต๋าและกระดาษในการเล่น แต่เป็นการสร้างโลกแฟนตาซีที่มีกฎเกณฑ์และเรื่องราวของตัวเอง ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ ร่วมเดินทางผจญภัย แก้ปริศนา และต่อสู้กับมอนสเตอร์ ความเป็นอิสระในการตัดสินใจและความหลากหลายของการดำเนินเรื่อง คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนมากมาย

เกมกระดาน Dungeons & Dragons

ยูจิ โฮริอิ (Yuji Horii) ผู้สร้าง Dragon Quest ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในเกม D&D และเกม RPG บนกระดานอื่นๆ เช่น Wizardry เขามองเห็นศักยภาพของเกมเหล่านี้ที่จะถูกนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบวิดีโอเกม ความคิดนี้เองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อสร้าง Dragon Quest

เกม Wizardry ที่ออกในปี ค.ศ. 1981 จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจ

นอกจากเกม RPG แล้ว วรรณกรรมแนวแฟนตาซีก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งแรงบันดาลใจที่สำคัญ งานเขียนของ J.R.R. Tolkien และ Ursula K. Le Guin ได้สร้างภาพโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ตัวละครที่มีเสน่ห์ และการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว สิ่งเหล่านี้ได้ซึมซับเข้าไปในความคิดของผู้สร้าง Dragon Quest และปรากฏให้เห็นในรูปแบบของเกมในเวลาต่อมา

บริบททางวัฒนธรรมญี่ปุ่น: การผสมผสานเอกลักษณ์ตะวันออก

แม้ว่าแรงบันดาลใจส่วนใหญ่ของ Dragon Quest จะมาจากตะวันตก แต่สิ่งที่ทำให้ Dragon Quest มีความพิเศษคือการผสมผสานเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในเกม ยูจิ โฮริอิ (Yuji Horii) ไม่ได้ต้องการสร้างแค่เกม RPG ที่เหมือนกับเกมอื่นๆ ที่มีอยู่ แต่ต้องการสร้างเกมที่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น

ตัวละครใน Dragon Quest ถูกออกแบบโดย อากิระ โทริยามะ (Akira Toriyama) ผู้ที่สร้างชื่อเสียงจากมังงะชื่อดังอย่าง Dr. Slump และ Dragon Ball สไตล์การวาดภาพตัวละครที่ดูน่ารัก สดใส และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้สร้างเสน่ห์ให้กับเกมและทำให้ Dragon Quest แตกต่างจากเกม RPG อื่นๆ ที่มักจะมีตัวละครที่ดูจริงจังและมืดมน

นอกจากนี้ ดนตรีประกอบเกมโดย โคอิจิ ซูงิยามะ (Koichi Sugiyama) ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญ ดนตรีของ ซูงิยามะ มีความไพเราะ ติดหู และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองให้กับเกม เพลงต่างๆ ไม่ได้เป็นแค่ดนตรีประกอบฉาก แต่เป็นการสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่ทำให้ผู้เล่นผูกพันกับเกมมากยิ่งขึ้น

ผู้มีส่วนสำคัญ: การรวมตัวของสุดยอดฝีมือ

การที่ Dragon Quest ประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ได้มาจากความพยายามของคนเพียงคนเดียว แต่มาจากการรวมตัวของทีมงานที่มีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ ยูจิ โฮริอิ (Yuji Horii), อากิระ โทริยามะ (Akira Toriyama) และ โคอิจิ ซูงิยามะ (Koichi Sugiyama) คือสามผู้ยิ่งใหญ่ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ตำนาน Dragon Quest ที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

อากิระ โทริยามะ (ซ้าย), Yuji Horii (กลาง), โคอิจิ ซูงิยามะ (ขวา)
อากิระ โทริยามะ (ซ้าย), Yuji Horii (กลาง), โคอิจิ ซูงิยามะ (ขวา)

อากิระ โทริยามะ (Akira Toriyama): การออกแบบตัวละครของ Toriyama ได้สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับ Dragon Quest สไตล์การวาดภาพที่น่ารักและเป็นกันเอง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพันกับตัวละครและโลกของเกม นอกจากนี้ ตัวละครยังมีการแสดงอารมณ์ที่ชัดเจน ทำให้เกมมีความมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ยูจิ โฮริอิ (Yuji Horii): ในฐานะผู้สร้างและผู้ออกแบบเกม Horii มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างเกม RPG ที่เข้าใจง่าย สนุก และเข้าถึงได้ เขาต้องการสร้างเกมที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์เล่นเกม RPG มาก่อนก็สามารถสนุกกับเกมได้ แนวคิดนี้เองที่ทำให้ Dragon Quest แตกต่างจากเกม RPG อื่นๆ ที่อาจมีความซับซ้อนและเข้าถึงยาก

โคอิจิ ซูงิยามะ (Koichi Sugiyama): ดนตรีประกอบของ Sugiyama เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Dragon Quest ประสบความสำเร็จ ดนตรีของเขาไม่เพียงแค่สร้างบรรยากาศ แต่ยังสร้างความรู้สึกที่หลากหลายให้กับผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้น ความเศร้า หรือความสุข ดนตรีของ Sugiyama เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเล่น Dragon Quest ที่ขาดไม่ได้

การรวมตัวของสามบุคคลนี้ ได้สร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าผลรวมของแต่ละคน Dragon Quest ไม่ได้เป็นแค่เกม แต่เป็นงานศิลปะที่ผสมผสานความบันเทิงเข้ากับความงดงามได้อย่างลงตัว

ในตอนต่อไป เราจะมาเจาะลึกถึงการกำเนิดของ Dragon Quest I และการพัฒนาเกมเพลย์ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ที่เป็นรากฐานให้กับเกม RPG อีกมากมาย แล้วพบกันใหม่!

Leave a Reply