ทำความรู้จักและการเลือกใช้งานให้เหมาะสม
จอคอมเกมมิ่ง คืออะไร
จอคอมเกมมิ่ง เป็นจอคอมหรือจอมอนิเตอร์ที่ถูกผลิตออกมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยความที่ตัวสเปกและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้กับหน้าจอนั้นเป็นเทคโนโลยีสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการปรับภาพ การสร้างลื่นไหลจากรีเฟรชเรทและอัตราการตอบสนองหน้าจอที่รวดเร็ว หรือจะเป็นตัวช่วยต่าง ๆ ที่จะทำให้เล่นเกมได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยประสิทธิภาพเพื่อประสบการณ์ในการเล่นเกมที่หาได้เฉพาะกับตัวหน้าจอแบบนี้เท่านั้น อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ล้ำตามแบบฉบับของเกมมิ่งเกียร์
จอคอมเกมมิ่ง แตกต่างกับ จอคอมทั่วไป อย่างไร
เรื่องความแตกต่างนั้น นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่มีดีไซน์แปลกตามากกว่าแล้ว ในเรื่องของสเปกภายในก็แตกต่างกันค่อนข้างเยอะ ถ้านำไปใช้ทำงานทั่วไปจนถึงงานกราฟิกสูง ๆ หรือใช้สำหรับดูหนังฟังเพลงก็อาจจะมองไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ที่เริ่มเล่นเกมจุดแตกต่างก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน
สำหรับความแตกต่างอย่างแรกเลยที่จะสัมผัสได้ก็คือ ความลื่นไหลของหน้าจอ เพราะว่าค่าอัตรารีเฟรชหน้าจอของจอเกมมิ่งนั้นจะให้ค่ามาที่สูงมาก ๆ ตั้งแต่ 120Hz ขึ้นไป โดยบางจอนั้นก็มาพร้อมกับอัตรารีเฟรชที่สูงทะลุโลกอย่าง 240Hz ในขณะที่หน้าจอทำงานทั่วไปจะมีอัตรารีเฟรชที่ไม่เกิน 100Hz ทำให้การเล่นเกมนั้นจะไม่แสดงภาพที่ลื่นไหลได้อย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง อีกทั้งในเรื่องของความหน่วงหน้าจอตัวเกมมิ่งจะให้เวลามาเร็วกว่ามาก ๆ เพราะจังหวะในการแข่งขันถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คว้าชัยชนะ
นอกจากความลื่นไหลของตัวภาพแล้ว เทคโนโลยีหรือฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้การเล่นเกมนั้นสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เพราะหากใช้หน้าจอเกมมิ่ง เหล่าเกมเมอร์จะสามารถเข้าไปตั้งค่าหน้าจอของการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเรื่องในการปรับความมืดของฉาก การเปิดเคอร์เซอร์ช่วยยิงให้สามารถเล็งได้ง่ายขึ้น รวมไปถึง G-Sync และ FreeSync ที่จะเข้ามาทำให้ตัวภาพสมูธ พร้อมภาพที่สวยงามไม่ว่าจะเล่นเกมแบบใดก็ตามให้กับผู้เล่นได้รับประสบการณ์รับชมที่ยอดเยี่ยม
4 คุณสมบัติเด่นที่ควรรู้ไว้ก่อนซื้อจอคอมสำหรับเล่นเกม
สายเกมคงทราบดีว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นอย่างมาก ซึ่งจอคอมสำหรับเล่นเกมมันมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และดื่มด่ำ แต่ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาคุณสมบัติสำคัญเหล่านี้
1. Input Lag (ความหน่วง) และ Refresh Rate (อัตราการรีเฟรชภาพ)
เพื่อการเล่นเกมที่ตอบสนองรวดเร็วและลื่นไหล Input Lag และ Refresh Rate นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องพิจารณา
Input Lag: ความเร็วในการตอบสนอง
ในโลกของเกมทุกมิลลิวินาทีมีความสำคัญ ความล่าช้าเพียงเสี้ยววินาทีก็ส่งผลได้ ดังนั้น เพื่อให้การเล่นเกมราบรื่นและตอบสนองรวดเร็ว ควรเลือกจอคอมที่มีค่า Input Lag ต่ำที่สุด สำหรับความเร็วตอบสนองที่ดีที่สุด
อัตราการรีเฟรช: ความลื่นไหลของภาพ
แน่นอนว่า อัตราการรีเฟรช ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องมองหาค่าสูง ๆ ไว้ก่อนเป็นเรื่องดี ยิ่งมีค่ารีเฟรชเรทเยอะ ก็จะได้ภาพที่ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น โดยตัวเกมแนว FPS และ Shooting นั้นควรใช้งานจอที่มีอัตราการรีเฟรชตั้งแต่ 144Hz ขึ้นไป เพื่อให้ได้ภาพที่ไหลลื่น ไม่มีสะดุดในจังหวะที่ต้องสะบัดเมาส์ ทำให้สามารถตอบสนองต่อภาพบนหน้าจอได้อย่างดี ในขณะที่เกมระดับ AAA, MMOPRG หรือเล่นเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch อัตรารีเฟรชตั้งแต่ 100Hz ขึ้นไปก็เรียกว่าเพียงพอที่จะเล่นทุกเกมและทุกเครื่อง
อัตราการรีเฟรช คือ จำนวนครั้งที่ภาพบนหน้าจอจะถูกแสดงซ้ำต่อวินาที ยิ่งอัตราการรีเฟรชสูง ภาพก็จะยิ่งดูลื่นไหลและสมจริงมากขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าอัตราการรีเฟรชต่ำ อาจทำให้ภาพเบลอ (motion blur) หรือภาพฉีก (screen tearing) ซึ่งรบกวนสายตาและทำให้การเล่นเกมไม่สนุก
ซึ่งจอคอมสำหรับใช้งานทั่วไป มักจะมีอัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 60Hz แต่ถ้าเน้นเล่นเกมจริงจัง ควรเลือกที่มีอัตราการรีเฟรช 120Hz หรือ 240Hz ยิ่งขึ้นไป อัตราการรีเฟรชที่สูงจะช่วยให้ภาพลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงเวลา (lag) โดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่นที่รวดเร็ว
2. ขนาดหน้าจอสำหรับการเล่นเกมแบบเต็มอิ่ม
อันดับแรกเลยสำหรับการตัดสินใจ นั่นก็คือขนาดของหน้าจอ หลายคนมักจะมองว่าเลือกใหญ่ ๆ สะใจแน่นอน ซึ่งก็ไม่ได้ผิด แต่ว่าสำหรับการเล่นเกมนั้นจะมีความเหมาะสมของเกมที่เล่นกับขนาดหน้าจออยู่ เพราะถ้าใช้หน้าจอที่สามารถมองดูภาพของเกมได้อย่างสบายตา การเล่นเกมก็จะเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเล่นเกมได้สนุกขึ้นนั่นเอง ซึ่งขนาดของจอและแนวของตัวเกมที่เหมาะสมกันก็มีดังต่อไปนี้
ความเหมาะสมของขนาดจอ ขนาดจอคอมที่นิยมสำหรับการเล่นเกมคือ 24-27 นิ้ว ซึ่งให้มุมมองที่ดีและไม่ทำให้สายตาเหนื่อยล้า หากต้องการใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์ ควรพิจารณาขนาดและการจัดวางที่เหมาะสมกับพื้นที่เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างราบรื่น
เกมแนว FPS และ Shooting สำหรับเกมแนวยิงกันสนั่นเมืองนี้ส่วนมากแล้วจะเป็นมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง หรือ First Person ซึ่งจะเป็นการมองเห็นตามมุมมองที่เรามอง โดยมีส่วนของแขนเท่านั้นที่เราเห็น การเล่นเกมแนวนี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดควรเล่นกับหน้าจอที่มีขนาด 21 – 24.5 นิ้ว เพราะว่าเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา สามารถกวาดตามองได้อย่างทั่วทั้งจอในเวลาไม่นาน ทำให้เห็นมุมต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
เกมแนว RTS, Racing และ MMORPG สำหรับเกมแนวแข่งรถ หรือเกม Open World นั้นการได้รับชมภาพหรือบรรยากาศสวย ๆ ระหว่างทางเป็นอะไรที่สร้างความอิ่มเอมในหัวใจให้ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์ หรือบ้านเมืองต่าง ๆ ทำให้ขนาดหน้าจอที่เหมาะสมนั้นก็คือขนาด 27 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้สามารถรับชมบรรยากาศต่าง ๆ ภายในเกมได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
3. ภาพคมชัด สมจริง เพื่อการเล่นเกมที่เต็มอิ่ม
ภาพที่คมชัดและสมจริง เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ต้องพิจารณามีทั้งหมด 3 จุดดังนี้
– ความละเอียด (Resolution):
ความละเอียดของภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการมองเห็น เพราะมันกำหนดระดับของรายละเอียดและความคมชัดของภาพที่แสดงบนหน้าจอ ความละเอียดที่สูงขึ้น เช่น 1080p หรือ 4K จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่คมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น ด้วยความละเอียด 1080p คุณจะมองเห็นทุกรายละเอียดอันแยบยลของโลกในเกม ไม่ว่าจะเป็นเส้นใบหญ้า หรือ พื้นผิวที่ละเอียดบนตัวละคร แต่ถ้าคุณต้องการภาพที่สมจริงที่สุด ความละเอียด 4K จะยกระดับไปอีกขั้น มอบภาพกราฟิกที่สวยงามราวกับมีชีวิต ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกมจริง ๆ
- Full HD (1920×1080) เหมาะสำหรับจอขนาดเล็กถึงกลางและเป็นที่นิยมในกลุ่มเกมเมอร์
- Quad HD (2560×1440) ให้ความละเอียดที่สูงขึ้น เหมาะสำหรับจอขนาดใหญ่ขึ้นและการเล่นเกมที่ต้องการความละเอียดสูง
- 4K (3840×2160) ให้ภาพที่คมชัดมากที่สุด แต่ต้องใช้การ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงในการแสดงผล
– ความสว่าง (Brightness)
ความสว่าง: เลือกจอที่มีความสว่างอย่างน้อย 250-300 nits เพื่อการแสดงผลที่ชัดเจน
ความสว่างจะส่งผลต่อการมองเห็นภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแสงรบกวนรอบข้าง หรือเล่นเกมในเวลากลางวัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเล่นเกมของคุณ ถ้าคุณมักจะเล่นเกมในห้องที่ควบคุมแสงได้ง่าย
– ค่าความต่าง (Contrast Ratio)
คอนทราสต์: ค่า contrast ratio ที่สูงช่วยให้ภาพมีความลึกและรายละเอียดดีขึ้น
จินตนาการว่าคุณอยู่ในป่าต้องห้ามของฮอกวอตส์ยามค่ำคืนมืดสนิท การที่มีค่าความต่าง(Contrast Ratio) สูง จะช่วยให้คุณมองเห็นรายละเอียดทั้งหมดแม้ในฉากมืด คุณจะสามารถหาศัตรูได้ง่ายและร่ายเวทมนต์โจมตีก่อนที่จะถูกฆ่า!
พาเนลที่จอใช้
พาเนล คือ ประเภทของหน้าจอ LCD เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยในเรื่องของสีและมุมมองที่ทางหน้าจอจะแสดงออกมาให้ผู้ใช้งานได้รับชม ซึ่งพาเนลจอนั้นจะมีใช้งานกันอยู่หลัก ๆ 3 แบบ ได้แก่
IPS เป็นพาเนลที่ให้สีสันที่สวยงาม ลายละเอียดภาพคมชัด มุมมองของภาพกว้าง ไม่ว่าจะมองมุมใดภาพก็ไม่มีผิดเพี้ยน แต่ว่าอัตรารีเฟรชนั้นจะให้น้อยกว่าพาเนลอีก 2 แบบ เป็นพาเนลที่เหมาะจะนำไปเล่นเกมแนวภาพสวย หรือเกมที่มีเอฟเฟคกระจายตูมตาม เพื่อความสะใจในการเล่น
VA เป็นพาเนลที่จะโดดเด่นในเรื่องของงานภาพ เพราะตัวพาเนลนี้ให้ Contrast ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับพาเนลอื่น ๆ สีที่แสดงออกมานั้นจะสดสมจริง สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายมาก ๆ ไม่เฉพาะว่าต้องเอาไว้เล่นเกมเท่านั้น
TN พาเนลนี้แม้ว่าจะให้ความสวยงามของสีนั้นลดลง แต่ในเรื่องของการตอบสนองที่ว่องไวนั้นอีก 2 แบบข้างบนเทียบไม่ติดเลยสักนิด ตัวอัตรารีเฟรชของหน้าจอจากพาเนลจะว่องไวที่สุด จึงทำให้เกมแนว FPS และ Shooting ต้องใช้พาเนลนี้เล่นเลยครับ รับรองเลยว่าสามารถลากเมาส์ไปยิงหัวได้อย่างคม ๆ
4. ประสิทธิภาพเสียงเพื่อประสบการณ์โสต-ภาพอันน่าดึงดูด
การเล่นเกมที่มีลำโพงในตัวจะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณได้อย่างมาก ช่วยให้การตั้งค่าระบบความบันเทิงง่ายขึ้น และยังช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณจากการซื้อลำโพงเพิ่มเติมอีกด้วย ทำให้สร้างประสบการณ์โสตและภาพอันน่าดึงดูดที่จะดึงคุณเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ
และก็ควรคำนึงถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงที่สะดวกสบายต่อการใช้